18

กันยายน

งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ มือใหม่
เพื่อก้าวสู่ HR มืออาชีพ

Checklist สิ่งที่ hr ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2566

งาน hr

การบริหารทรัพยากรบุคคล (HR) เป็นกลไกที่เป็นสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ. ช่วงสิ้นปีเป็นเวลาที่สำคัญที่ HR ต้องทำหน้าที่ปรับปรุงและวางแผนเพื่อให้บุคลากรและองค์กรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในปีถัดไป วันนี้ HR-ODTHAI มีบทความเรื่อง Checklist สิ่งที่ hr ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2566 นี้มาให้คุณได้อ่าน เพื่อให้ HR ได้นำไปประยุกต์ใช้ เพื่อทำให้งานของคุณเสร็จสมบูรณ์ก่อนสิ้นปี

เลือกอ่านตามหัวข้อที่คุณอยากรู้

checklist สิ่งที่ hr ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2566 มีดังนี้

การเตรียมตัวในช่วงสิ้นปี เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทีมทรัพยากรบุคคล (HR) ควรดำเนินการเพื่อให้การบริหารทรัพยากรบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพในปีถัดไป 

checklist สิ่งที่ hr ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2566

✅ ประกาศวันหยุดประจำปี 2567

วันหยุดประจำสัปดาห์

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541

  • มาตรา 28 ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ สัปดาห์หนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งวัน โดยวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องมีระยะห่างกันไม่เกินหกวัน นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้ากำหนดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์วันใดก็ได้
  • ในกรณีที่ลูกจ้างทำงานโรงแรม งานขนส่ง งานในป้า งานในที่ทุรกันดารหรืองานอื่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าสะสมวันหยุดประจำสัปดาห์และเลื่อนไปหยุดเมื่อใดก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะเวลาสี่สัปดาห์ติดต่อกัน
  • วันหยุดประจำสัปดาห์ เป็นอำนาจของนายจ้างในการที่จะกำหนดวันหยุดประจำสัปดาห์วันไหนก็ได้ โดยนายจ้างอาจจะกำหนดวันหยุดประจำสัปดาห์ให้ลูกจ้างสลับกันหยุดในวันใดก็ได้ โดยกฎหมายคุ้มครองแรงงาน กำหนดหลักเกณฑ์เรื่องวันหยุดประจำสัปดาห์เอาไว้ดังนี้
  1. นายจ้าง ต้องจัดวันหยุดประจำสัปดาห์ให้ลูกจ้าง ไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 1 วัน โดยกำหนดวันใดก็ได้ และลูกจ้างแต่ละคน อาจมีวันหยุดประจำสัปดาห์ในวันที่แตกต่างกันก็ได้ ซึ่งหมายถึงทำงานได้สูงสุดไม่เกิน 6 วัน จะต้องมีวันหยุดประจำสัปดาห์ 1 วัน
  2. วันหยุดประจำสัปดาห์ ต้องมีระยะห่างกันไม่เกิน 6 วัน
  3. งานบางลักษณะที่ไม่สามารถหยุดประจำสัปดาห์ได้ นายจ้าง และลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าสะสม และเลื่อนวันหยุดประจำสัปดาห์ออกไปได้ แต่ห้ามเลื่อนออกไปเกิน 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

วันหยุดตามประเพณี

  • มาตรา 29 ให้นายจ้างประกาศกำหนดวันหยุดตามประ เพณีให้ลูกจ้างทราบเป็นการล่วงหน้าปีหนึ่งไม่น้อยกว่าสิบสามวันโดยรวมวันแรงงานแห่งชาติตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
  • ให้นายจ้างพิจารณากำหนดวันหยุดตามประเพณีจากวันหยุดราชการประจำปี วันหยุดทางศาสนา หรือขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งท้องถิ่น
  • ในกรณีที่วันหยุดตามประเพณีวันใดตรงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ของลูกจ้างให้ลูกจ้างได้หยุดชดเชยวันหยุดตามประเพณีในวันทำงานถัดไป
  • ในกรณีที่นายจ้างไม่อาจให้ลูกจ้างหยุดตามประเพณีได้ เนื่องจากลูกจ้างทำงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ให้นายจ้างตกลงกับลูกจ้างว่าจะหยุดในวันอื่นชดเชยวันหยุดตามประเพณีหรือนายจ้างจะจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้ก็ได้
  • วันหยุดตามประเพณี กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กำหนดขึ้นเพื่อให้ลูกจ้างได้มีโอกาสหยุดในวันสำคัญทางศาสนาหรือขนบธรรมเนียมประเพณี ของแต่ละท้องถิ่น เพื่อไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวันดังกล่าว โดยนายจ้างไม่สามารถกำหนดวันหยุดตามประเพณีตามอำเภอใจได้ โดยกฎหมายฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์เรื่องวันหยุดตามประเพณีไว้ดังนี้
  1. นายจ้างต้องประกาศกำหนดวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้าเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
  2. จำนวนวันหยุดตามประเพณีในแต่ละปีต้องไม่น้อยกว่าปีละ 13 วัน
  3. การกำหนดวันหยุดตามประเพณีนั้นให้รวมวันแรงงานแห่งชาติเอาไว้ด้วย และให้กำหนดจากวันหยุดราชการประจำปี วันหยุดทางศาสนาหรือขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งท้องถิ่น
  4. ถ้าวันหยุดตามประเพณีที่กำหนดตรงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ของลูกจ้างให้ลูกจ้างได้หยุดชดเชยในวันทำงานถัดไป
  5. ในกรณีที่นายจ้างไม่อาจให้ลูกจ้างหยุดตามประเพณีได้เนื่องจากลูกจ้างทำงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานตามที่กำหนดในกฎกระทรวง” นายจ้างกับลูกจ้างสามารถตกลงกันได้ดังนี้
    5.1 หยุดชดเชยในวันอื่น หรือ
    5.2 ให้นายจ้างจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้

วันหยุดพักผ่อนประจำปี

  • มาตรา 30 ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันมาแล้วครบหนึ่งปีมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีได้ปีหนึ่งไม่น้อยกว่าหกวันทำงานโดยให้นายจ้างเป็นผู้กำหนดวันหยุดดังกล่าว ให้แก่ลูกจ้างล่วงหน้าหรือกำหนดให้ตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน
  • ในปีต่อมานายจ้างอาจกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้างมากกว่าหกวันทำงานก็ได้
  • นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าให้สะสมและเลื่อนวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ยังมิได้หยุดในปีนั้นรวมเข้ากับปีต่อๆ ไปได้
  • สำหรับลูกจ้างซึ่งทำงานยังไม่ครบหนึ่งปี นายจ้างอาจกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้างโดยคำนวณให้ตามส่วนก็ได้
  • การทำงานของลูกจ้างนั้นจะต้องมีการหยุดพัก ทั้งนี้เพื่อมิให้ลูกจ้างต้องตรากตรำในการทำงานด้วยเหตุนี้กฎหมายคุ้มครองแรงาน จึงบัญญัติในเรื่องของวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้กับลูกจ้างเอาไว้ โดยนายจ้างเป็นผู้กำหนดหรือตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน โดยกฎหมาย ฯ กำหนดหลักเกณฑ์เรื่อง วันหยุดพักผ่อนประจำปีไว้ดังนี้
  1. ลูกจ้างมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีในปีหนึ่งไม่น้อยกว่า 6 วันทำงาน
  2. การเกิดสิทธิของลูกจ้างจะเกิดขึ้นเมื่อลูกจ้างทำงานกับนายจ้างครบ 1 ปีแรกแล้ว
  3. วันหยุดพักผ่อนประจำปีนายจ้างเป็นผู้กำหนดให้ลูกจ้างล่วงหน้าหรืออาจจะกำหนดให้ตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน
  4. วันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมนั้น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ไม่ได้บังคับว่นายจ้างจะต้องกำหนดให้กับลูกจ้าง ซึ่งนายจ้างบางรายอาจไม่ได้มีการกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้กับลูกจ้างก็ได้ แต่ประเด็นที่สำคัญคือการสะสมและเลื่อนวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ยังไม่ได้หยุดในปีนั้นรวมเข้ากับปีต่อ ๆ ไปนั้นจะสะสมได้เฉพาะในกรณีของวันหยุดพักผ่อนประจำปีในส่วนที่เกินจาก 6 วัน และนายจ้างตกลงกับลูกจ้างให้สามารถนำวันหยุดฯ ในส่วนที่เกิน 6 วัน นำไปสะสมในปีถัดไปได้
  5. ในกรณีที่มีการกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้กับลูกจ้างมากกว่า 6 วันต่อปี แต่นายจ้างและลูกจ้างมีการกำหนดตกลงกันให้มีการสะสมวันหยุดฯ ในส่วนที่เกิน 6 วันก็ได้
  6. สำหรับลูกจ้างที่ทำงานกับนายจ้างยังไม่ครบ 1 ปีแรก นายจ้างอาจกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้กับลูกจ้างได้ โดยใช้วิธีการคำนณตามสัดส่วน ซึ่งบทบัญญัติมาตรานี้ เป็นการแก้ปัญหาในเรื่องของการกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้กับลูกจ้างแต่ละคน เหตุผลเนื่องจากลูกจ้างแต่ละคนเข้างานไม่พร้อมกัน และจะมีอายุงานครบ 1 ปี และกิดสิทธิวันหยุดพักผ่อนประจำปี ไม่พร้อมกัน ประกอบกับ

กฎหมายฯกำหนดสิทธิการได้วันหยุดพักผ่อนประจำปีจะเกิดขึ้น ครั้งแรกต่อเมื่อลูกจ้างทำงานครบ 1 ปีด้วยเหตุนี้กฎหมาย ฯ จึงกำหนดให้ลูกจ้าง ซึ่งทำงานยังไม่ครบหนึ่งปี นายจ้างอาจกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้างโดยคำนวณให้กับลูกจ้างตามสัดส่วนได้

✅ ประกาศกฎระเบียบประจำปี 2567

✅ ประกาศสวัสดิการประจำปี 2567

สวัสดิการแรงงานเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ช่วยให้คุณภาพชีวิตของลูกจ้างรวมถึงครอบครัวดีขึ้นความเอื้ออาทรของนายจ้างโดยการจัดสวัสดิการแรงงานให้แก่ลูกจ้าง ย่อมทำให้ลูกจ้างมีความรัก ความผูกพันต่อนายจ้าง ทำให้ลูกจ้างเกิดขวัญและกำลังใจในการทำงานซึ่งทำให้ผลผลิตของลูกจ้างมีปริมาณสูงขึ้น และคุณภาพสูงขึ้นในขณะเดียวกันการจัดสวัสดิการแรงงานให้แก่ลูกจ้างยังช่วยเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้างช่วยลดปัญหาและข้อขัดแย้งในสถานประกอบกิจการทำให้การประกอบกิจการของนายจ้างดำเนินไปอย่างราบรื่น

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ปฏิบัติภารกิจด้านสวัสดิการแรงงาน โดยการส่งเสริม ให้มีการจัดสวัสดิการขึ้นในสถานประกอบกิจการ โดยเห็นว่าการที่ลูกจ้างได้รับสวัสดิการที่ดี นอกจากทำให้ลูกจ้าง เกิดขวัญและกำลังใจที่ดีแล้ว ยังส่งผลให้ลูกจ้างลดการขาดงาน ลางานและเปลี่ยนงานบ่อย ในที่สุดจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานและผลิตภาพใน การทำงาน ภายใต้กรอบภารกิจดังกล่าว สวัสดิการแรงงานได้ถูกจัดแบ่งออกเป็น2 ประเภท คือ

  1. สวัสดิการแรงงานตามกฎหมาย
  2. สวัสดิการแรงงานนอกเหนือกฎหมาย

✅ จัดทำ ACTION PLAN HR ปี 2567

Action Plan หรือ แผนการดำเนินการของทีมทรัพยากรบุคคล (HR) เป็นเอกสารที่ระบุกิจกรรมและวิธีการที่ทีม HR จะดำเนินการเพื่อปรับปรุงความประสบความสำเร็จในงาน และสนับสนุนวัตถุประสงค์ขององค์กร ขั้นตอนที่สามารถนำมาสร้าง Action Plan ของทีม HR ยกตัวอย่างเช่น

  1. วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน
    – ทำการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของทีม HR
    – ระบุพื้นที่ที่ต้องการปรับปรุงและโอกาสที่สามารถให้ความสำคัญ
  2. กำหนดวัตถุประสงค์
    – กำหนดวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ Action Plan ทำให้เกิดขึ้น
    – ระบุผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการดำเนินการ
  3. กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัด
    – กำหนดเป้าหมายที่ทีม HR ต้องการบรรลุ
    – ระบุตัวชี้วัดที่ใช้วัดความสำเร็จของแต่ละกิจกรรม
  4. ระบุกิจกรรมและการดำเนินการ
    – ระบุกิจกรรมที่จะทำเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
    – ระบุขั้นตอนการดำเนินการและผู้รับผิดชอบ
  5. กำหนดระยะเวลา
    – กำหนดระยะเวลาที่จะทำให้แต่ละกิจกรรม.
    – ระบุกำหนดการที่มีความเป็นไปได้
  6. ระบุทรัพยากรที่ต้องใช้
    – ระบุทรัพยากรที่ต้องใช้ในการดำเนินการแต่ละกิจกรรม
    – พิจารณาการจัดหาทรัพยากรเพิ่มเติมที่จะต้องใช้
  7. วางแผนการสื่อสาร
    – วางแผนการสื่อสารกับทีมและส่วนหนึ่งในองค์กร
    – ระบุช่องทางการสื่อสารและเนื้อหาที่สื่อถึง
  8. ระบุกลยุทธ์การจัดการ
    – ระบุกลยุทธ์ที่จะใช้ในการดำเนินการ
    – พิจารณาเทคโนโลยีและเครื่องมือที่สามารถใช้เพิ่มประสิทธิภาพ.
  9. วางแผนการติดตามและประเมินผล
    – วางแผนการติดตามความก้าวหน้าของแผนการ
    – ระบุวิธีการประเมินผลและปรับปรุงตามไป
  10. รายงานและสรุป
    – วางแผนการรายงานความก้าวหน้าและผลการดำเนินการ
    – สรุปและจดบันทึกเรียนรู้เพื่อนำไปปรับปรุงใน Action Plan ครั้งถัดไป

การสร้าง Action Plan นี้จะช่วยให้ทีม HR มีแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพเพื่อให้ทำภารกิจของทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพและมีผลสัมฤทธิ์ต่อองค์กร

✅ จัดทำ TRAINING NEED 2567

การจัดทำ Training Needs Analysis (TNA) หรือการประเมินความต้องการในการฝึกอบรม (Training Needs) เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ทีมทรัพยากรบุคคล (HR) หรือผู้ดูแลการบริหารทรัพยากรบุคคลในองค์กรเข้าใจความต้องการของพนักงานในการพัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็น หากคุณกำลังจัดทำ TRAINING NEED 2567 จองอบรมกับเราได้ที่นี่

✅ จัดทำ BUDGET PLAN ปี 2567

การจัดทำ Budget Plan หรือ แผนงบประมาณเป็นกระบวนการที่สำคัญในการวางแผนและบริหารการเงินขององค์กรหรือโครงการ. ด้วยการสร้างแผนงบประมาณอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ, องค์กรสามารถจัดทำการเงินให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และความต้องการทางธุรกิจ

hrมือใหม่ ทรัพย

เริ่มต้นจาก Hr มือใหม่
เพื่อก้าวสู่ HR มืออาชีพ

" พร้อมสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารทรัพยากรมนุษย์ ด้วยหลักสูตร งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ มือใหม่ เพื่อก้าวสู่ HR มืออาชีพ ”

ทรัพยากรบุคคลมือใหม่ hrมืออาชีพ
checklist สิ่งที่ hr ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2566

✅ จัดทำ YEAR PLAN ประจำปี 2567

การจัดทำ Year Plan หรือ แผนประจำปีเป็นกระบวนการที่ทำในระดับองค์กรเพื่อวางแผนกิจกรรมที่ต้องทำในระหว่างปี Year Plan ช่วยกำหนดทิศทางและวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ รวบรวมกิจกรรมที่ต้องทำ และกำหนดแผนการดำเนินงานในระยะเวลาที่กำหนด

การจัดทำ Year Plan ช่วยให้องค์กรมีการตรวจสอบและวางแผนกิจกรรมที่เป็นไปตามเป้าหมายและสอดคล้องกับสถานการณ์ทางธุรกิจ

✅ เตรียม NEW YEAR PARTY 66-67

การเตรียมงาน New Year Party เป็นกิจกรรมที่สนุก และทำให้พนักงานหรือทีมทำงานมีโอกาสที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ และเพิ่มความมีชีวิตชีวาของทีม การเตรียม New Year Party คือ โอกาสที่ดี ที่จะสร้างความรู้สึกที่ดี และความทรงจำที่ยังคงอยู่ในใจของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นงานเล็ก ๆ หรืองานใหญ่ ควรให้ความสำคัญกับรายละเอียดและการวางแผนให้เป็นระเบียบ

✅ แพลนตรวจสุขภาพประจำปี 66-67

ทุกปีสถานประกอบการต้องจัดเตรียม เรื่องการตรวจสุขภาพ ให้กับพนักงานเพื่อเฝ้าระวังโรคที่เกิดจากการทำงาน หรือมีปัจจัยเสี่ยงจากงาน ที่อาจทำให้เกิดโรค เพื่อให้ทราบถึงสภาวะสุขภาพร่างกาย และจิตใจ ของลูกจ้าง เพื่อจะได้ให้การรักษาหรือป้องกันได้ทันท่วงที

ตามกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสุขภาพของลูกจ้าง และส่งผลการตรวจแก่พนักงานตรวจแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๗
“การตรวจสุขภาพ” หมายความว่า การตรวจร่างกายและสภาวะทางจิตใจตามวิธีทางการแพทย์เพื่อให้ทราบถึงความเหมาะสม และผลกระทบต่อสุขภาพของลูกจ้างอันอาจเกิดจากการทำงาน

หมวด ๑ การตรวจสุขภาพ
ข้อ ๓ ให้นาขจ้างจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงโดยแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวชกรรมค้านอาชีเวชศาสตร์ หรือที่ผ่านการอบรมด้านอาชีวเวชศาสตร์ หรือที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีประกาสกำหนด โดยตรวจสุขภาพลูกจ้างครั้งแรกให้เสร็จสิ้น ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน และตรวจสุขภาพลูกจ้างครั้งต่อไปอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง

ในกรณีที่ลักษณะ หรือสภาพของงานที่เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงนั้น มีความจำเป็นต้องตรวจสุขภาพตามระยะเวลาอื่น ให้นายจ้างจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างตามระยะเวลานั้น

ในกรณีนายจ้างเปลี่ยนงานของลูกจ้างที่มีอันตรายแตกต่างไปจากเดิม ให้นาขจ้างจัดให้มีการตรวสุขภาพของลูกจ้างทุกครั้งให้เสร็จสิ้น ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ปลี่ยนงาน

ข้อ ๕ ในกรณีที่ลูกจ้างหยุดงานสามวันทำงานติดต่อกัน เนื่องจากประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ไม่ว่ากรณีใด ๆ นายจ้างอาจขอความเห็นจากแพทข์ผู้ทำการรักยา หรือแพทข์ประจำสถานประกอบกิจการ หรือจัดให้มีการตรวจสุขภาพของลูกจ้างก่อนให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานอีกก็ได้

✅ UPDATE JOB DESCRIPTION 2567

การอัปเดต Job Description (รายละเอียดงาน) เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรและพนักงานทราบถึงความคาดหวัง, ความรับผิดชอบ, และคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับตำแหน่งงาน การทำ Job Description ที่ชัดเจนช่วยลดความสับสนและช่วยสร้างความโปร่งใสในทีมงาน

✅ UPDATE ORGANIZATION CHART

การอัปเดตแผนผังองค์กรเป็นกระบวนการที่สำคัญที่ HR (ทรัพยากรมนุษย์) ควรทำเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างและลำดับชั้นของบุคคลในองค์กรมีความทันสมัยและถูกต้อง ตัวอย่างของการ UPDATE ORGANIZATION CHART มีดังนี้

Organization Chart (แผนผังองค์กร) คือ แผนภาพที่แสดงโครงสร้างและลำดับชั้นของบุคคลในองค์กรหรือบริษัท รวมถึงความสัมพันธ์และหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง. การใช้แผนผังองค์กรช่วยให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้าใจโครงสร้างขององค์กรและทำให้ง่ายต่อการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร

  1. รวบรวมข้อมูล

    • ติดต่อกับหัวหน้าแผนกและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างและบุคคลในองค์กร
  2. ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง

    • ตรวจสอบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง, ลำดับชั้น, หรือโครงสร้างการทำงาน
  3. ติดต่อผู้บริหาร

    • สนทนากับผู้บริหารหรือผู้จัดการสำคัญเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการปรับปรุง
  4. รายงานการเปลี่ยนแปลง

    • จัดทำรายงานที่สรุปการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่มีผลกระทบต่อแผนผังองค์กร
  5. อัปเดตซอฟต์แวร์หรือเครื่องมือ

    • ใช้ซอฟต์แวร์หรือเครื่องมือที่ใช้สร้างแผนผังองค์กรเพื่อทำการอัปเดต
  6. สร้างแผนผังใหม่

    • สร้างแผนผังใหม่ที่แสดงการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
    • ให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับและความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง
  7. ตรวจสอบความทันสมัย:

    • ตรวจสอบว่าแผนผังองค์กรทั้งในรูปแบบอุปกรณ์พิมพ์และดิจิทัลทันสมัย.
    • ให้ความสำคัญกับความง่ายต่อการเข้าใจ
  8. การตรวจสอบความสอดคล้อง:

    • ตรวจสอบความสอดคล้องกับคู่มือหรือนโยบายองค์กร
    • แน่ใจว่าแผนผังตรงตามโครงสร้างและนโยบายใหม่
  9. การตรวจสอบกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง:

    • ส่งตรวจสอบแผนผังใหม่กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง, เช่น หัวหน้าแผนก, หรือเจ้าหน้าที่ทรัพยากรมนุษย์
  10. การสื่อสาร:

    • สื่อสารการเปลี่ยนแปลงใหม่ในแผนผังกับทั้งองค์กร
    • ให้คำแนะนำเกี่ยวกับที่ไหนควรค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม
  11. การจัดอบรม:

    • จัดอบรมหรือการประชุมเพื่อทำความเข้าใจกับสมาชิกในองค์กรเกี่ยวกับแผนผังใหม่
  12. เปิดเผยแผนผัง:

    • เปิดเผยแผนผังใหม่ให้สามารถเข้าถึงได้ทั้งในองค์กร
    • นำเสนอข้อมูลในที่ประชุมหรืออื่น ๆ
  13. สร้างการทบทวนประจำปี:

    • สร้างการทบทวนประจำปีเพื่อตรวจสอบ และปรับปรุงแผนผังตามความจำเป็น

การอัปเดตแผนผังองค์กรเป็นกระบวนการที่ต้องทำเป็นระยะ ๆ เพื่อให้มีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยตลอดเวลา. การสื่อสารและการสร้างความเข้าใจในทีมเป็นสิ่งสำคัญเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างองค์กร

✅ จัดเก็บข้อมูลเอกสารต่างๆ ปี 2566

การจัดเก็บข้อมูลเอกสาร เป็นหน้าที่สำคัญของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) เพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างมีระเบียบ และปลอดภัย

checklist สิ่งที่ hr ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2566

✅ จัดทำสันแฟ้มใหม่ ประจำปี 2567

การจัดทำสารบัญ (ทำสันแฟ้ม) ใหม่ ประจำปี 2567 คือกระบวนการที่สำคัญเพื่อรักษาข้อมูลและเอกสารขององค์กรในลักษณะที่เป็นระบบและประสิทธิภาพ

✅UPDATE ประวัติให้เป็นปัจจุบัน

การอัปเดตประวัติเป็นปัจจุบันเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้ประวัติทำงานของคุณตอบสนองกับทัศนคติและความสามารถล่าสุดของคุณ รวมถึงพนักงานในบริษัทของคุณด้วย

การอัปเดตประวัติเป็นปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้ทันสมัยกับการเปลี่ยนแปลงในองค์กรและตลาดแรงงาน. การรักษาประวัติที่มีประสิทธิภาพและปัจจุบันช่วยให้คุณมีโอกาสที่ดีในการได้รับงานหรือโอกาสอื่น ๆ ในอนาคต

✅ แพลนสรุปข้อมูลเงินได้ ของปี 2566

การสร้างแพลนสรุปข้อมูลเงินได้ (Income Summary Plan) สำหรับปี 2566 นั้นเป็นกระบวนการที่สำคัญในการวางแผนทางการเงินขององค์กร

การสรุปข้อมูลเงินได้ในแผนที่มีระเบียบและเป็นระบบช่วยให้องค์กรสามารถทำการวางแผนการเงินและตอบสนองต่อสถานการณ์ทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

✅แพลนจัดทำ 50 ทวิ ของปี 2566

ใบ 50 ทวิ หรือเรียกเต็ม ๆ ว่า “หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร” คือหนังสือที่ผู้จ่ายเงินซึ่งได้ทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย ออกให้กับผู้รับเงินได้ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ผู้มีเงินได้จะได้รับเพื่อแสดงว่าผู้รับเงินได้ถูก หักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อนำส่งกับสรรพากร สำหรับผู้ที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย (ผู้รับเงิน) จะต้องเก็บใบ 50 ทวิ ดังกล่าวไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษีเงินได้ประจำปี

 

ผู้ที่จัดทำใบ 50 ทวินั้นจะต้องเป็น “นายจ้าง” (ผู้จ่ายเงินได้) ให้แก่พนักงานที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล (ผู้รับเงินได้) ไม่ว่าจะเป็นจากการจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส ค่านายหน้าต่าง ๆ ก็นับว่าเป็นรายจ่ายที่พึงประเมินในใบหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) โดยการออกใบ 50 ทวินั้น นายจ้างจะต้องจัดทำเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ กรณีที่จัดทำเป็นภาษาอื่น ๆ จะต้องมีคำแปลที่เป็นภาษาไทยกำกับด้วย

✅ แพลนจัดสัมมนาประจำปี 2567

การจัดสัมมนาประจำปี 2567 เป็นกิจกรรมที่สำคัญในองค์กร เพื่อสร้างความร่วมมือ, แลกเปลี่ยนความรู้, และกำหนดแนวทางการดำเนินงานต่อไป

✅ สรุปข้อมูลสถิติการลาประจำปี 2566

ข้อมูลการลาประเภทต่าง ๆ ตั้งแต่ลาป่วย ลากิจ จนกระทั่งลาออก มีความสำคัญในการพัฒนาองค์กรในหลากหลายแง่มุม เพียงแต่ปัจจุบันองค์กรมักให้ความสนใจกับงาน operation ในชีวิตประจำวัน และทิ้งตัวเลข หรือข้อมูลการลาไว้โดยที่รู้สึกว่าไม่เป็นประโยชน์อะไรใด ๆ และเปลืองพื้นที่การเก็บ 

ซึ่งแท้จริงแล้ว องค์กรแนวหน้าของโลกที่เน้นการทำ Big Data ดึงข้อมูลเหล่านี้มาใช้เพื่อค้นหา business insights ในหลายด้าน เช่น นำตัวเลขการลาออกมา match กับสายงาน ดูว่าอยู่ในสายอาชีพอะไร ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อสรุปหลายๆอย่างที่เป็นประโยชน์ได้

สรุป

การจัดการทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมธุรกิจและตลาดงานได้บ่อยครั้ง การทำสิ่งที่ HR ต้องทำให้เสร็จสิ้นในปี 2023 จะช่วยสร้างพื้นที่ทำงานที่สร้างสรรค์ และเป็นกำลังใจสำหรับพนักงานในปีถัดไป

ที่มา : HR PLANING 2565-2566

หลักสูตรที่น่าสนใจ
สำหรับ งานบริหารทรัพยากรมนุษย์

บทความที่ HR มือใหม่ อย่างคุณไม่ควรพลาด

การเข้าสู่วงการการจัดการทรัพยากรบุคคล (HR) เป็นการเริ่มต้นที่น่าตื่นเต้นและท้าทายในเวลาเดียวกัน หากคุณเป็น HR มือใหม่
ที่กำลังเข้าสู่หน้าที่นี้ คุณอาจต้องเผชิญกับการเรียนรู้และปรับตัวในสภาวะที่ต้องรับมือกับความซับซ้อนและหลากหลายของภารกิจ
ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลทั้งภายในและภายนอกองค์กร

  • All Posts
  • Uncategorized
เทคนิค การสัมภาษณ์งาน แบบมืออาชีพ (Professional Competency Based Interview Techniques)
February 8, 2024

การสัมภาษณ์งาน แบบ Competency Based Interview มุ่งเน้นไปที่การประเมินความสามารถ ทักษะ และประสบการณ์ของผู้สมัคร ผ่านคำถามพฤติกรรมและสถานการณ์จำลอง เทคนิคนี้ช่วยให้ผู้สัมภาษณ์เข้าใจศักยภาพของผู้สมัครในการทำงานจริง

Checklist สิ่งที่ hr ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2566​
November 22, 2023

การบริหารทรัพยากรบุคคล (HR) เป็นกลไกที่เป็นสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ. ช่วงสิ้นปีเป็นเวลาที่สำคัญที่ HR ต้องทำหน้าที่ปรับปรุงและวางแผนเพื่อให้บุคลากรและองค์กรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในปีถัดไป วันนี้ HR-ODTHAI มีบทความเรื่องChecklist สิ่งที่ hr ต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นปี 2566 นี้มาให้คุณได้อ่าน เพื่อให้ HR ได้นำไปประยุกต์ใช้ เพื่อทำให้งานของคุณเสร็จสมบูรณ์ก่อนสิ้นปี

hr มือใหม่ เพื่อก้าวสู่ hr มืออาชีพ
September 1, 2023

hr มือใหม่ ควรเริ่มต้นอย่างไรดี การเป็น HR มือใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องรับผิดชอบงานต่างๆ มากมาย เช่น การสรรหาพนักงาน การพัฒนาพนักงาน การบริหารผลประโยชน์ และการสร้างความสัมพันธ์กับพนักงาน เป็นต้น ดังนั้น HR มือใหม่จึงควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงาน HR และพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ …

สถาบัน TOPPRO ของเรา ได้รับการรับรองจากมาตรฐานสากล ISO 9001 เป็นระบบบริหารงาน คุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อการประกันคุณภาพ และลูกค้าสามารถมั่นใจในมาตรฐาน
การบริการฝึกอบรมสัมมนา